fb-pixel
บริษัทออนไลน์อันดับ 1 ของไทย
รับสมัครตัวแทนจำหน่าย

Mindset ผู้ประกอบการ

Mindset ผู้ประกอบการ

ลูกจ้างประจำ มีรายได้ตามที่นายจ้างประเมินเราจากงานที่เขาให้เราทำ หรือเรียกอีกอย่างว่าจากการ KPI เรานั่นเอง แต่เมื่อเรามาเป็นผู้ประกอบการ รายได้จะเป็นไปตามความสามารถของเรา 100% เราต้องประเมินตัวเอง รายได้ที่เราได้มามันจะเป็นตัวบอกเราว่าคุณภาพ "ความเป็นผู้ประกอบการ" ของเรามีแค่ไหน และสิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการมือใหม่มักจะเจอก็คือ จะเกิดคำถามขึ้นกับตัวเองว่า อาชีพนี้มันใช่ไหม เราจะทำได้จริงหรือเปล่า เราจะสำเร็จจริงเหรอ เผลอๆหรือเราโดนหลอกหรือเปล่า

ช่วงแรกๆของการทำงานคือความหนื่อย มันจะมีแต่ปัญหาสาระพัดเข้ามาทดสอบเรา มันจะเกิดอาการท้อเพราะเราไม่เคยทำมันมาก่อน แต่อาการแบบนี้เชื่อเถอะว่าเราไม่ได้รู้สึกคนเดียวในโลก ในขณะเวลาเดียวกันก็จะมีคนรู้สึกไปพร้อมๆกับเรา และแน่นอนว่าก่อนหน้านั้นก็มีคนที่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน

คนที่เจอความรู้สึกหรือปัญหาแบบนี้จะมีอยู่ 2 ประเภทคือ

  1. ล้มเลิกไปเลย
  2. สู้ต่อไป แบบสู้ไม่ถอยกัดไม่ปล่อย เพราะรู้ดีว่าการอดทนอาจจะใช้เวลาแค่เพียง 1 ปีแรกหรือ 2-3 ปีเท่านั้น ทุกอย่างก็จะดีขึ้นแล้วจะสามารถใช้ชีวิตที่เหลือได้ตามต้องการ เพราะถ้าอดทนกับงานประจำ ก็ต้องอดทนอย่างนั้นไปจนตลอดชีวิต และนั่นคือ "เราไปทำงานสร้างฝันให้เขาประสบความสำเร็จ ซึ่งมันไม่ใช่ความฝันของเรา"

คนที่สู้ไม่ถอยกัดไม่ปล่อย เมื่อเจอปัญหาเขาจะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ

  1. ปัญหาเล็ก ถ้าเจอปัญหาเล็กคนกลุ่มนี้ก็แค่คิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ก้าวข้ามไป
  2. ปัญหากลาง อันนี้ปล่อยผ่านไม่ได้ ต้องได้รับการแก้ไข อย่าหนีปัญหา ให้บอกกับตัวเองว่าทุกปัญหามันมีทางออก
  3. ปัญหาใหญ่ ถ้ามันมืดแปดด้าน ให้เราปรึกษาคนที่เก่งกว่าเคยผ่านประสบการณ์มาก่อน เขาย่อมมีทางออก เพราะเขาเคยผ่านมาแล้ว และที่สำคัญเขาไม่ได้จมอยู่กับปัญหาเหมือนเรา เขาจึงมองเห็นทางออก และที่สำคัญเราต้องให้พลังใจตัวเองว่า เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวมีอีกหลายคนที่รักเราและเราก็รักเขา

หลายๆครั้งที่เราเห็นโพสต์ของคนสำเร็จ ซึ่งกว่าเขาจะมีภาพนั้นมาให้เราเห็นเขาเหล่านั้นก็ต่างผ่านปัญหามานับไม่ถ้วน ล้มลุกคลุกคลานมาก็เยอะ แต่เขาจัดอยู่ในสายพันธุ์ที่สู้ไม่ถอยกัดไม่ปล่อย เขาเลยมีภาพเหล่านั้นมาให้เราเห็น คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะสร้างแรงบันดาลใจขึ้นมาเอง เพราะมีสิ่งหนึ่งที่เขารู้ดีว่า "ถ้าเรามีแรงบันดาลใจแล้ว เราจะสามารถใช้ใจนั้นมาบันดาลแรง"

บางคนรอแต่แรงจูงใจ ซึ่งถ้าเรามัวรอแต่แรงจูงใจนั่นหมายถึงมีคนอื่นมาจูงใจให้เราทำงานให้เขา ไม่ใช่เราทำเพื่อเป้าหมายเราเอง

วันนี้หากเราจะสร้างแรงบันดาลใจ อย่าไปแคร์หรือเกรงใจคนอื่นมากเกินไป เพราะถ้าเรามัวแต่ไปฟังเสียงวิจารณ์หรือคำนินทาคนรอบกายเรา สักวันเราจะได้ยินเสียงร้องไห้ของคนในครอบครัวตัวเอง เพราะฉะนั้น "อย่าให้น้ำลายราคาถูก มาทำลายความฝันราคาแพง" ของเรา เราต้องปกป้องความฝันของเราไว้

จงจำไว้ว่า

  • ถ้าท้อก็เป็นได้แค่ถ่าน ถ้าผ่านเราก็จะเป็นเพชร
  • ความฝันไม่มีวันหมดอายุ ตราบใดที่เราไม่ล้มเลิกที่จะลงมือทำมัน

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

นิทานพลิกชีวิต : คนหาบน้ำ

นิทานพลิกชีวิต : คนหาบน้ำ

ตอนนี้เรากำลังทำงานเพื่อเงินในปัจจุบันอย่างเดียวหรือเปล่า ตราบใดที่เรายังมีเวลา แรงงาน และมันสมองขายเราก็จะยังได้เงิน แต่ถ้าเมื่อไหร่เราไม่มีเวลา แรงงานหรือมันสมองแล้วเราก็จะไม่มีรายได้

นิทานพลิกชีวิต : เทวดา 2 องค์

นิทานพลิกชีวิต : เทวดา 2 องค์

เราปลูกอะไรเราก็ได้อย่างนั้น เราปลูกต้นความขยัน อดทน เรียนรู้ ลงมือทำในทุกๆวัน เราก็จะได้ต้นแห่งความสำเร็จ แต่ถ้าเราปลูกต้นแห่งความไม่อดทน ไม่มุ่งมั่น ไม่ศรัทธา ความโลเล ไม่เรียนรู้ ไม่ลงมือทำจริงจัง เราก็จะได้ต้นของความล้มเหลวนั่นเอง

นิทานพลิกชีวิต : แม่ไก่มือใหม่

นิทานพลิกชีวิต : แม่ไก่มือใหม่

การที่เราตื่นเต้นกับข่าวอะไรสักอย่างโดยที่ไม่ไตร่ตรองก่อน แล้วส่งต่อลงไปในทีมหรือลูกค้าของเรา สุดท้ายเราอาจจะสูญเสียทีมของเราไปทั้งหมดก็ได้ จากการที่เราเป็นมือใหม่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน

นิทานพลิกชีวิต : พยาบาลผู้ยืนหยัด

นิทานพลิกชีวิต : พยาบาลผู้ยืนหยัด

เราต้องยืนหยัดว่าธุรกิจออนไลน์นี้สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้ แม้ว่าจะมีคนดูถูก ไม่เชื่อ โดยเฉพาะกองเชียร์มหาภัยที่มักเป็นคนใกล้ตัวเรา ซึ่งอาจเป็นความหวังดี แต่อยู่บนความเข้าใจอย่างแท้จริง