fb-pixel
บริษัทออนไลน์อันดับ 1 ของไทย
รับสมัครตัวแทนจำหน่าย

นิทานพลิกชีวิต : เทวดา 2 องค์

นิทานพลิกชีวิต : เทวดา 2 องค์

มีเทวดา 2 องค์นบนสวรรค์ เทวดาที่อยู่มานานเรียกว่า "เทวดาใหญ่" ส่วนอีกองค์ที่เพิ่งขึ้นมาเป็นเทวดาเรียกว่า "เทวดาเล็ก" วันหนึ่งเทวดาเล็กได้มองลงมายังโลกมนุษย์แล้วเห็นบ้านเศรษฐีคนหนึ่งใหญ่โตมาก มีห้องนอนมากถึง 20 ห้องด้วยกันซึ่งยังไม่รวมห้องอื่นๆอีกมากมาย

วันหนึ่ง เทวดาเล็กอยากจะลงมาเที่ยวเมืองมนุษย์ จึงได้ชวนเทวดาใหญ่ลงมาด้วย จากนั้นทั้งสองก็ได้แปลงกายเป็นชายชรามาเคาะประตูบ้านเศรษฐีคนนั้น แล้วพูดว่า "พวกเราขอพักบ้านท่านสักคืนได้ไหม" เศรษฐีก็มองมาแล้วตอบว่า "บ้านข้าไม่มีห้องว่างแล้วนะ ถ้าจะพักก็อยู่ห้องใต้ดินก็แล้วกัน ส่วนอาหารก็ไม่มีเหลือแล้ว มีแต่เศษอาหาร" เทวดาทั้งสองก็ได้ลงมาในห้องใต้ดิน ก็พบว่ามันแคบมาก อับชื้นเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและผนังห้องก็แตกร้าวเหมือนจะพัง เทวดาเล็กรู้สึกโกรธมากว่ามาทำกับเทวดาอย่างเขาได้อย่างไร จากนั้นก็นอนหลับไป พอตกดึกก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา พบว่าเทวดาใหญ่กำลังซ่อมแซมผนังห้องที่มันแตกร้าวอยู่ ก็คิดแปลกใจว่าทำไมถึงต้องไปซ่อมห้องให้กับคนที่ไม่ได้ทำดีกับเราแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

พอมาอีกวันก็พากันไปขอพักกับชายชราคนหนึ่งที่ยากจน เขามีแค่กระท่อมเก่าๆเล็กๆอยู่หนึ่งหลังพร้อมด้วยวัวอีก 1 ตัว และหมั่นโถวอีก 2 ลูก พร้อมกับกองฟางแห้งๆ พอเทวดาทั้งสองมาขอพักด้วย เขาก็ให้เทวดาทั้งสองนอนบนกระท่อม ส่วนตัวเขาก็ไปนอนกับวัวที่กองฟางแทน และยังได้ยกหมั่นโถวทั้ง 2 ลูกให้ ส่วนตัวเขานั้นบอกว่าอิ่มแล้วทั้งๆที่ตัวเองยังไม่ได้กินอะไรเลย

ตกดึกคืนนั้น เกิดฟ้าฝนตกกระหน่ำและเกิดฟ้าผ่าลงมา พอรุ่งเช้าตื่นขึ้นมาก็พบว่าวัวเพียงตัวเดียวของชายชราได้ถูกฟ้าผ่าตายไปแล้ว เทวดาเล็กต่อว่าเทวดาใหญ่ว่าทำไมท่านไม่ช่วยเขา ทั้งๆที่เขามีน้ำใจให้กับเรา แต่กับเศรษฐีไร้น้ำใจคนนั้นกลับไปช่วยซ่อมบ้านให้

จนกระทั่งทั้งสองกลับขึ้นสวรรค์ไป เทวดาเล็กก็รีบไปที่ห้องเก็บบันทึกว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พอเขาไปเปิดดูบันทึกก็พบว่าจริงๆแล้วเศรษฐีผู้นั้นจะต้องร่ำรวยกว่านี้จากมรดกที่บรรพบุรุษเขาเก็บซ่อนไว้หลังกำแพงแล้วโบกปูนทับไว้ แต่คืนนั้นที่เทวดาใหญ่ไปซ่อมผนังกำแพงนั้นเพราะเห็นว่าถ้ากำแพงนั้นพังลงมา สมบัติทั้งหลายก็จะปรากฎออกมาให้เห็น เมื่อซ่อมผนังเรียบร้อยนั้นก็แสดงว่าเศรษฐีผู้นั้นจะไม่ได้สมบัติที่จะทำให้เขาร่ำรวยได้กว่าเดิมนั่นเอง

ส่วนชายชราที่สูญเสียวัวไปนั้น เขาได้เซ็นสัญญากับสวรรค์ว่าจะมีอายุขัยเพียงแค่ 60 ปีเท่านั้น และจริงๆแล้วคืนนั้นฟ้าต้องผ่าลงที่เขา ไม่ใช่วัว แต่เทวดาใหญ่เปลี่ยนไปให้ฟ้าผ่าวัวแทน เป็นการช่วยชีวิตเขาให้อยู่ต่อได้อีก 20 ปี

จากนิทานเรื่องนี้มันกำลังสอนเราว่า ให้เราศรัทธาในการทำความดี บางครั้งผลลัพธ์ที่เราได้หรืออะไรที่เกิดขึ้นกับเราแล้วคิดว่าโชคร้าย จริงๆแล้วมันอาจเป็นโชดดีที่ได้ทำให้สิ่งที่ควรจะเกิดต้องแย่กว่านี้ กลับเกิดขึ้นเพียงแค่นิดเดียว แต่บางอย่างที่เราได้มาแล้วภูมิใจนักหนาว่าเราโชคดี จริงๆแล้วมันกำลังทำให้เรา "พลาดโอกาสดีๆที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้"

ดังคำกล่าวที่ว่า "เราปลูกอะไรเราก็ได้อย่างนั้น" เราปลูกต้นความขยัน อดทน เรียนรู้ ลงมือทำในทุกๆวัน เราก็จะได้ต้นแห่งความสำเร็จ แต่ถ้าเราปลูกต้นแห่งความไม่อดทน ไม่มุ่งมั่น ไม่ศรัทธา ความโลเล ไม่เรียนรู้ ไม่ลงมือทำจริงจัง เราก็จะได้ต้นของความล้มเหลวนั่นเอง

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

90 วันอันตราย

90 วันอันตราย

คนเราส่วนใหญ่กว่าจะมีนิสัยอะไรสักอย่าง จะต้องใช้ระยะเวลาในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการวิจัยพบว่า 90 วัน คือระยะเวลาที่จะทำให้เกิดนิสัยจากการกระทำนั้นๆ เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังการกระทำของเราในทุกๆวันให้ดี

นิทานพลิกชีวิต : ชาวนากับลาแก่

นิทานพลิกชีวิต : ชาวนากับลาแก่

ถ้าเราไม่ยอมให้ปัญหานั้นมาถาทมเราได้แล้วใช้มันเป็นตัวทำให้เราเก่งขึ้นเรื่อยๆหรือพูดง่ายๆถ้าเราอยู่เหนือปัญหาหรือแก้ไขปัญหานั้นได้มันจะทำให้เราเก่งขึ้นในทุกๆครั้งที่เราเจอปัญหา

นิทานพลิกชีวิต : ถังน้ำผู้อาภัพ

นิทานพลิกชีวิต : ถังน้ำผู้อาภัพ

คนเราทุกคนไม่มีความสมบูรณ์แบบ ให้เรายอมรับในจุดด้อยของเราแล้วพัฒนาจุดแข็งของตัวเอง และที่สำคัญบางครั้งจุดด้อยของเราไปอาจจะไปเติมเต็มบางสิ่งบางอย่างให้กับทีมเราให้แข็งแกร่งขึ้น แต่สิ่งอื่นใดขอให้เราจงเห็นค่าของตัวเอง ว่าเราก็เป็นคนที่มีคุณค่าเสมอ

สร้างรากแห่งความสำเร็จ

สร้างรากแห่งความสำเร็จ

คนที่เข้ามาทำอะไรๆก็ตามที่เป็นสิ่งใหม่ๆสำหรับเขา คนเหล่านั้นช่วงแรกๆจะมีความเชื่อดุจเม็ดทราย คือมันบางเบามา แค่เป่าเบาๆมันก็ปลิว มีความเชื่อที่บางเบาทั้งในความเชื่อมั่นในตัวเอง ในธุรกิจ ในสินค้า ในบริษัท…ฯลฯ พอโดนลมปากของคนที่ไม่สำเร็จก็ปลิวง่ายมาก