หลักการความสำเร็จแบบนกพิลิแกน
นกพิลิแกนเป็นนกที่มีสัญชาตญาณนักล่า แต่สำหรับนกพิลิแกนรุ่นเดิมที่เคยอยู่ที่หาดมอนเทอร์เล่ กลับมีความมักง่ายในการหากินจากการที่คอยบินตามเรือหาปลาของชาวประมงเพื่อที่จะได้ปลามากิน
อยู่มาวันหนึ่งได้มีกฏหมายห้ามเรือประมงหาปลาในเขตนั้น จึงทำให้นกที่อาศัยอยู่ที่นั้นล้มตายลงไป เพราะมันไม่สามารถหากินเองได้ และที่สำคัญมันลืมสัญชาตญาณความเป็นนักล่าของมันเสียสิ้น
จนกระทั่งผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและพวกนักชีววิทยาทางทะเลได้ไปเอานกพิลิแกนที่ฟลอริด้า ซึ่งห่างออกไป 2,000 ไมล์มาปล่อยเป็นจำนวนหลายร้อยตัว เพราะเขาเชื่อว่าเมื่อมันผสมพันธุ์กับนกพิลิแกนเจ้าถิ่นแล้ว เมื่อออกลูกออกหลานมา จะทำให้นกรุ่นใหม่สามารถกลับมามีสัญชาตญาณนักล่าที่หากินเองได้อีกครั้ง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นว่าไม่ต้องรอให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน เพราะเพียงเวลาไม่กี่เดือน นกพิลิแกนที่หากินเองไม่เป็นต้องบินตามเรือหาปลา พอมันเห็นวิธีการหาปลาจากนกต่างถิ่นที่ออกหาปลากินเอง มันก็จำแล้วมันก็ทำตาม ในที่สุดพวกที่เหลือมันก็ปลอดภัย รอดพ้นจากการอดตาย สามารถกลับมาหากินเองได้อีก
มันก็ตรงกับสุภาษิตและคำกล่าวที่ว่า
- ผู้ที่เดินตามนักปราชญ์ จะฉลาดตามไปด้วย
- เพื่อนที่เราคบ มันจะกำหนดชะตาชีวิตของเรา
- การคบคนพาลเป็นปัจจัยหลักในการก่ออาชญากรรม
จากหลักการของนกพิลิแกนนี้ มันสามารถทำให้เรานำมาประยุกต์กับการทำงานของเราได้ตรงที่ว่า เราควรให้คุณค่ากับความแข็งแกร่ง ไม่ใช่ให้ค่ากับความอ่อนแอ เพราะฉะนั้นเมื่อเราจะทำงานกับทีม เราควรจะเลือกทำงานกับคนที่แข็งแกร่งก่อน เพราะเมื่อเขาขึ้นมายืนคู่กับเราได้ เขาจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนทีมงานของเรา และที่สำคัญเขาจะส่งต่อสิ่งเหล่านั้นลงไปในทีม จะทำให้ทีมงานของเราแข็งแกร่งยิ่งๆขึ้นไปทั้งในเชิงลึก และหน้ากว้างต่อไปในอนาคต