ความแตกต่างที่ลงตัว
บนโลกใบนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบที่สุดหรือดีที่สุด บางครั้งเราเจอใครบางคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กลับไม่ชอบในการกระทำของเขา ซึ่งจริงๆแล้วการกระทำที่เขาแสดงออกมาเขาอาจจะมองว่ามันดี มันถูกต้องแล้ว เพราะเขาได้เรียนรู้และมีประสบการณ์มาแบบนั้นแต่เรากลับไปตัดสินเขาด้วยความเชื่อ และประสบการณ์ของเราที่เราเป็นแบบนี้มาตลอดชีวิต ซึ่งถ้าให้เขาตัดสินเรากลับ เขาก็อาจจะไม่ชอบในการกระทำของเราด้วยก็ได้
เพราะฉะนั้นดีที่สุดอย่าไปตัดสินใครด้วยความเชื่อ ความชอบ หรือประสบการณ์ของตัวเอง โดยเฉพาะต้องระวังให้ดีคือการตัดสินเขาด้วยกิเลสของเราเอง
จะให้ดีที่สุดเมื่อเราต้องมาพบเจอกัน มาทำงานร่วมกันเราควรจะใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาเกื้อหนุนกันจะดีกว่า ถ้าอีกคนเขาเห็นในสิ่งที่เราทำแล้วมันดีมันเกิดประโยชน์ เขาก็อาจจะพัฒนาตัวเขาเองขึ้น เพราะมนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว เราแค่เข้าใจ เราก็จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเติบโตไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
นิทานพลิกชีวิต : เทวดากับขอทาน
บางทีคนที่จน เขาไม่ได้จนโอกาส ไม่ได้จนเวลา แต่เขาจนตั้งแต่ความคิด ถึงแม้จะมีโอกาสเข้ามาให้ไขว่คว้าไว้แต่ก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลง เขาก็ไม่สามารถทำให้ตัวเองร่ำรวยขึ้นมาได้
Input = Output
ถ้าอยากเป็นมืออาชีพ เราจะหยุด Input ไม่ได้ เพราะถ้าเราไม่มีข้อมูลหรือความรู้อะไรเลย เราจะ Output ได้อย่างไร ไม่ว่าเราจะ Input เพื่อนำไปส่งต่อ หรือเพื่อเอาลงมือทำก็ตาม
นิทานพลิกชีวิต : ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไม่สามารถเกิดได้ด้วยหัวใจที่เล็ก
เราให้ค่าของงานเราแบบไหนเราก็จะทำงานแบบนั้น ถ้าเราเห็นว่างานที่เราทำมัน
"ต่ำต้อยด้อยค่า" เราก็จะทำมันแบบ "ขอไปที" แต่ถ้าเราเห็นว่างานที่เราทำ
"มันยิ่งใหญ่"
เราจะทุ่มเททุกอย่างลงไปอย่างไม่มีข้อแม้และจะมีความสุขกับมัน
คิดเหมือน ทำเหมือน สำเร็จเหมือน
เราทุ่มเทกับอะไร เราจะเติบโตไปกับสิ่งนั้น เรามุ่งมั่นกับอะไร มันย่อมจะสำเร็จ แต่ความสำเร็จแต่ละครั้งมันจะมีขนาดไม่เท่ากัน